กาแฟ Dirty คือการทีช็อดร้อนๆของน้ำกาแฟเอสเพรสโซ่ลงไปในแก้วที่มีนมแช่เย็นจัด โดยไม่คนให้เข้ากัน แต่ให้ดูแยกชั้นกันเป็นเลเยอร์ที่สวยงาม แล้วโรยผงกาแฟเล็กน้อยไว้ตรงชั้นบนกาแฟ 

วิธีดื่มนั้นก็ต่างกับเมนูอื่นคือ ไม่ให้คนกาแฟ แต่ให้กระดกดื่มโดยพยายามให้นมด้านล่างไหลขึ้นมารวมกับกาแฟด้านบนเอง คุณก็จะได้ลิ้มรสสัมผัสของกาแฟเข้มที่ค่อยๆผสมกับนมเย็นๆด้านล่าง เป็นมิติของรสชาติที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก แต่ให้รสชาติที่เข้มละมุนไม่เหมือนใคร เป็นเมนูสุดโปรดของหลายคนไปเลย

ส่วนคำว่า "Dirty" นั้นเป็นภาษาอังกฤษที่แปลว่าสกปรก นั่นก็คือการเปรียบเทียบลักษณะของน้ำกาแฟเอสเพรสโซ่ที่เข้มข้นที่ราดลงไปบนนมเย็นในแก้วใส ทำให้เกิดลวดลายสะเปะสะปาไม่เป็นระเบียบ เหมือนคราบกาแฟที่เลอะไปบนนมเย็นที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟเมนูนี้ ก็เลยเรียกกันว่า Dirty Coffee

ต้นกำเนิดของกาแฟ Dirty

กาแฟ Dirty มีต้นกำเนิดครั้งแรกในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ร้านแบร์พอนด์เอสเพรสโซ่ (Bear Pond Espresso) ร้านกาแฟดังย่านชิบูย่า โดยบาริสต้าหนุ่มนามว่า คัทซึยูกิ ทานากะ (Katsuyuki Tanaka) เจ้าของร้าน ผู้ที่เคยทำงานในร้านกาแฟระดับโลกในนิวยอร์กแล้วจึงกลับมาเปิดร้านของตัวเองในญี่ปุ่นเมื่อปี 2009

ร้าน Bear Pond Espresso นี้ดังมากในโตเกียว เป็นร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยมที่เลือกใช้แต่เมล็ดกาแฟเกรดพรีเมี่ยม และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เมนู Dirty Coffee นี้ดังไปทั่วญี่ปุ่นและก็เริ่มแพร่กระจายไปยังประเทศต่างๆโดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป

ด้วยที่มันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงได้รับความนิยมในหมู่นักถ่ายภาพอาหารมากมาย เนื่องจากให้ภาพที่เตะตาเตะใจน่าชิม ไม่น่าเบื่อเหมือนเมูนอี่น

หลังจากนั้นก็มีคาเฟ่ชื่อดังในเกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน เริ่มนำเอาไปเลียนแบบ แล้วปรบสูตรเล็กน้อยตามสไตล์ของตัวเอง

• ไต้หวัน: เริ่มใช้นมเย็นที่หลากหลายรูปแบบมากขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆให้กับลูกค้า เช่น นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ และนมจากข้าวโอ๊ต
• เกาหลีใต้: บางร้านเพิ่มความหวานเล็กน้อยให้กับนมเย็นและเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่เข้มข้นขึ้น เป็นที่ถูกใจกันมากมายสำหรับชาวเกาหลีใต้
• ยุโรป: หลายร้านดังในฝรั่งเศสและอิตาลีก็เริ่มนำเมนู Dirty Coffee นำไปเสนอเป็นเมนูแบบกาแฟ Specialty Coffee เสียเลย  

ต่อมาในช่วงปี 2018 ถึงปัจจุบัน เมนูนี้ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่ามากในค่าเฟ่ระดับ Specialty Coffee ทั่วโลก โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ อาทิ นิวยอร์ก ลอนดอน และซิดนีย์

ปัจจุบัน กาแฟ Dirty มีการพัฒนาสูตรให้หลากหลายขึ้น บางคาเฟ่เพิ่มรสชาติด้วยการใช้ เมล็ดกาแฟพิเศษ หรือเปลี่ยนนมให้เข้ากับรสชาติที่ต้องการ เช่น

Dirty Matcha – ใช้มัทฉะร้อนแทนเอสเพรสโซ่

Dirty Hojicha – ใช้โฮจิฉะร้อน (ชาญี่ปุ่นคั่ว) แทนเอสเพรสโซ่

Dirty Mocha – เพิ่มช็อกโกแลตเพื่อให้มีรสหวานกลมกล่อม

สูตรชงกาแฟ Dirty ให้อร่อยมาก

1. เตรียมนมเย็น

เคล็ดลับอยู่ที่เลือกใช้นมสดที่มีไขมันสูง (Full Cream Milk) แล้วเทนมลงในแก้วใสประมาณมาณ 120มล อาจจะเติมไซรัปหรือน้ำผึ้งนิดหน่อยพอหวานเล็กๆ แล้วจึงนำไปแช่ในตู้เย็นให้เย็นจัดประมาณ 1 ชั่วโมง (ห้ามเติมน้ำแข็งในนม)

2. เตรียมน้ำกาแฟเอสเพรสโซ่ Espresso

ให้บดเมล็ดกาแฟ 18-20 กรัม คั่วกลางหรือคั่วเข้มให้ละเอียดคล้ายเม็ดน้ำตาลทราย แล้วนำไปสกัดด้วยเครื่องเอสเพรสโซ่เพื่อดึงน้ำกาแฟประมาณ 30 มล โดยใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที (เคล็ดลับ ควรเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่มีโนดของชอกโกแลต หรือ คาราเมล หรือถั่ว เพราะจะให้รสที่กลมกล่มอมากขึ้น)

3. เทคนิคการเทกาแฟ

นำแก้วนมเย็นออกมาจากตู้เย็น ค่อยๆเทช็อตเอสเพรสโซ่ที่ได้ลงบนผิวนมอย่างช้า พยายามให้กาแฟแยกตัวจากชั้นนมมากที่สุดเพื่อให้เกิดเป็นเลเยอร์สวยๆ แล้วก็นำไปดื่มได้เลย ที่สำคัญ ตอนดื่มห้ามคน ให้กระดกให้นมเย็นก้นแก้วค่อยๆไหลลงมารวมกับกาแฟด้านบน

ปัจจุบันมีการพัฒนาให้มีสูตรที่หลากหลายมากขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ของรสชาติเข้มข้นและเนื้อสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟ Dirty